พอตกับบุหรี่ไฟฟ้า อันไหนส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่า

ปัจจุบันบุหรี่มีหลากหลายชนิดให้เราได้เลือกใช้งาน ซึ่งที่เป็นที่นิยมมากในปัจจุบันก็คงจะหนีไม่พ้นบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีลักษณะแบบมีแบตเตอรี่ในตัว สามารถพกพาไปสูบได้ทุกที่ มีหลากหลายกลิ่นให้เลือก และหลายคนก็เชื่อว่า บุหรี่ไฟฟ้านั้น อันตรายน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดาทั่วไปอีกด้วย

ซึ่งบุหรี่ที่มีลักษณะคล้ายบุหรี่ไฟฟ้า บางคนก็เรียกบุหรี่ไฟฟ้า บางคนก็เรียกพอต ทำให้หลาย ๆ คนเข้าใจผิดคิดว่า 2 สิ่งนี้คือตัวเดียวกัน ซึ่งไม่จริงเสียทีเดียว

 

พอตกับบุหรี่ไฟฟ้า แตกต่างกันอย่างไร

พอตกับบุหรี่ไฟฟ้า มีความคล้ายกันอย่างกับฝาแฝด แต่ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน ทั้ง 2 แบบ จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าในการสูบ แต่แตกต่างกันตรงที่ บุหรี่ไฟฟ้าทั่วไปต้องมีแบตเตอรี่หรือถ่านมาใส่ที่เครื่องเพิ่มเติม ส่วนพอตนั้นมีความสะดวกสบายกว่า เพราะมีเบตเตอรี่ในตัวเลย (คล้ายกับมือถือปัจจุบัน) เวลาจะใช้งาน ถ้าแบตหมดก็แค่หยิบสาย USB ขึ้นมาชาร์จ และใช้งานต่อได้ยาว ๆ

อีกอย่างที่ช่วยให้สังเกตความแตกต่างของบุหรี่ไฟฟ้าและพอตได้ก็คือ ขนาดของคอยล์นั่นเอง คอยล์ที่ใช้งานกับบุหรี่ไฟฟ้าจะมีขนาดที่ใหญกว่า ส่วนคอยล์ที่ใช้งานกับพอต ถูกปรับปรุงให้มีขนาดเล็กลง เพื่อการพกพาที่ง่ายขึ้นนั่นเอง

จึงแนะนำว่าให้เลือกใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าหรือพอต ก็ได้ตามความสะดวกในการใช้งาน ซึ่งทั้งสองแบบก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไม่มากเลย

พอตกับบุหรี่ไฟฟ้า อะไรอันตรายกว่า

ซึ่งถ้าถามว่า 2 สิ่งนี้ อะไรส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่า ก็จะบอกได้ว่าพอตกับบุหรี่ไฟฟ้านั้น ใช้หลักการการทำงานแบบเดียวกัน สารต่าง ๆ เหมือนกัน แตกต่างกันเพียงรูปแบบการทำงานเล็กน้อยเท่านั้นเอง

แต่บุหรี่ไฟฟ้าหรือพอตนั้น ก็ยังมีความปลอดภัยกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับบุหรี่มวนทั่วไป เพราะใช้หลักการการระเหยของสารนิโคตินด้วยความร้อนจากไฟฟ้า หรือตัวเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ได้มีการเผาไหม้เหมือนบุหรี่มวน และการเผาไหม้ของบุหรี่แบบมวนทั่วไปนั้น แฝงไปด้วยสารต่าง ๆ ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าในระยะยาว

สรุป

พอตกับบุหรี่ไฟฟ้า แตกต่างกันที่การออกแบบและฟังก์ชั่น ซึ่งพอตจะดูมีความทันสมัยกว่า ด้วยขนาดที่เล็กและพกพาง่าย อีกทั้งยังมีแบตเตอรี่ในตัวด้วย ส่วนบุหรี่กลิ่น/รส ต่าง ๆ สามารถเลือกใช้งานได้ตามใจชอบได้เลย อย่างไรก็ตาม บุหรี่ไฟฟ้าหรือพอต ก็ยังมีความปลอดภัยกว่าบุหรี่มวนทั่วไป ผู้สูบไม่ต้องเผชิญกับอันตรายจากการเผาไหม้ ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวยิ่งกว่า